วันที่ 6 ตุลาคม 2563 จาก สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รายงานมาว่า จากข้อมูลที่ได้รวบรวมโดยรอยเตอร์พบว่า ยอดของผู้เสียชีวิต จาก โควิด19 ในประเทศเมียนมา ได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ภายในระยะเวลาเวลาเพียง 7 วันเท่านั้น
ซึ่งนับว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ที่รวดเร็วกว่าประเทศอื่นใดในโลกอีกด้วย สำหรับประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 5 คน
ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขและกีฬาของประเทศเมียนมา ได้รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ โควิดรายใหม่ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ได้เพิ่มขึ้น 987 คน จนทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิดในเมียนมา อยู่ที่ 18,781 คน และส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมาเป็น 32 คน ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 444 คน รักษาหายแล้ว 5,548 คน
รอยเตอร์รายงานด้วยว่า ขณะนี้ รัฐบาลเมียนมาได้กักตัวประชาชนทั้งหมด กว่า 45,000 คน ซึ่งมีทั้งผู้ติดเชื้อโควิด19 , ผู้ที่รอตรวจเชื้อโควิด และ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับคน 2 กลุ่ม ข้างต้น รวมไปถึงแรงงานชาวเมียนมา ที่เพิ่งเดินทางกลับประเทศ
โดยทั้งหมดจะถูกกักตัวอยู่ในสถานที่กักตัวของ รัฐบาลเมียนมา ที่ได้ดัดแปลงเอาอาคารสถานที่ราชการต่างๆ ไปจนถึงวัด และโรงเรียนอีกหลายๆแห่ง มาใช้เป็นสถานที่กักตัวของทางรัฐบาล
โดยสถานที่กักตัวของรัฐบาลเมียนมา เหล่านี้ ดูแลโดยอาสาสมัครสาธารณสุข ซึ่งจะต้องทำงานอย่างหนักโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ เลย นอกจากเพียงที่พักและอาหารฟรี เพียงเท่านั้น และยังต้องทำงานโดยมีอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อโควิด เท่าที่จะหาได้เท่านั้น
อาสาสมัครบางคนก็บอกว่า มีเวลานอนหลับพักผ่อนเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้นในแต่ละวัน และการทำงานอาสาดูแลผู้ป่วยโควิด19 ยังทำให้ต้องห่างไกลจากครอบครัวอีกด้วย ทั้งๆที่อาสาสมัครสาธารณสุขเหล่านี้ มีความสำคัญต่อการต่อสู้กับ โควิด19 ของประเทศเมียนมา เป็นอย่างยิ่ง โดยผู้ติดเชื้อโควิดที่รอดชีวิตหลายคน ล้วนแต่เป็นเพราะการดูแลของอาสาสมัครเหล่านี้