ข่าวต่างประเทศ สถานการณ์ข่าวล่าสุด

เซี่ยงไฮ้ 24 เมษายน ซินหัว ศุลกากรเซี่ยงไฮ้ Shanghai Customs เปิดเผยว่า
ได้ตรวจหาและสกัด ตั๊กแตนทะเลทราย ตัวหนึ่งในลังไม้ที่ส่งมาจากภูมิภาคเอเชียตะวันตก

นับเป็นครั้งแรกที่มีการเจอสัตว์สายพันธุ์ดังกล่าวที่ท่าผ่านดินแดนของจีน

ตั๊กแตนทะเลทราย นับว่าเป็นสัตว์ที่มีความสามารถในการทำลายล้างมากที่สุด
ในบรรดาตั๊กแตนสายพันธุ์ต่างๆนับสิบสายพันธุ์

เคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วสูงถึง 150 กิโลเมตรต่อวัน ทั้งฝูงตั๊กแตนที่กระจายตัวในพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร สามารถกินอาหารตลอด 24 ชั่วโมง ได้พอๆกับคนราว 35,000 คน

นับจากปี 2019 สถานการณ์การบุกรุกอย่างต่อเนื่องของตั๊กแตนทำให้เกิดผลกระทบอย่างหนัก
ต่อหลายประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก

เช่น เอธิโอเปีย ซูดาน และเคนยา อีกทั้งทำให้เกิดภัยต่อความมั่นคงทางอาหาร
และเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ทั้งนี้ จนถึงวันพฤหัสบดี 23 เมษายน เซี่ยงไฮ้ยังไม่พบภัยเสี่ยงจากตั๊กแตน

ด้านคณะเจ้าหน้าที่ศุลกากรให้ข้อมูลกับสำนักข่าวซินหัวว่าเมื่อเร็วๆนี้พวกเขาได้ยกระดับมาตรการกักด่านแล้วก็ตรวจสอบพืชที่มากับสินค้านำเข้าเพื่อป้องกันการคุกคามทางชีวภาพ

นอกจากนี้ศุลกากรเซี่ยงไฮ้ได้สกัดศัตรูพืชชนิดอื่นๆเช่น แมลงหวี่ 1 ตัว และด้วงเปลือกสนยุโรปกว่า 10 ตัว โดยแมลงทั้งสองประเภทนี้สามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วรวมทั้งอาจทำให้เกิดภัยร้ายแรงต่อสภาพแวดล้อม…

ได้มีเพจเฟซบุ๊ก เพจหนึ่ง เป็นเพจของการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ได้โพสต์ รูปภาพ ยอดเขามัตเตอร์ฮอร์น ยอดเขาชื่อดัง และเป็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงของประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ และได้มีการฉายภาพธงชาติไทยขึ้นไปบนยอดเขาดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้ ยังเขียนคำบรรยายในภาพที่ฉาย ด้วยคำบรรยายให้กำลังใจและแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้กับชาวไทย ที่กำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อีกด้วย

“ชาวไทยที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีมาเสมอนั้น กำลังต่อสู้กับไวรัสโคโรนา ทำให้ปีนี้จัดเทศกาลสงกรานต์แบบปกติไม่ได้ เราจึงขอส่งสัญญาณแห่งความหวังและพลังใจ และแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชาวไทยมา ณ ที่นี้” การท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ โพสต์

นอกจากที่จะมีธงชาติ ของชาติไทยแล้ว วันเดียวกันนี้ยังมีการฉายธงชาติสิงคโปร์ด้วย ส่วนวันอื่นๆ ก็มีอีกหลายประเทศ อาทิ จีน สหรัฐ บราซิล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และญี่ปุ่น…

รัฐบาลเวียดนาม ลดหย่อนมาตรการควบคุมทางด้านสังคมที่บังคับใช้มาตั้งแต่ต้นเดือนนี้
แต่ว่ายังคงแนวทางปฏิบัติสำคัญไว้

ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย และก็การจับกลุ่มนอกเคหสถาน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม

เมื่อวันที่ 23 เมษายน ว่า รัฐบาลเวียดนาม เริ่มบรรเทามาตรการควบคุมทางด้านสังคม
ซึ่งบังคับใช้มาเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา

โดยสถานประกอบการหลายแห่งกลับมาเปิดบริการ รวมทั้งสภาพการจราจรบนถนนเริ่มกลับมาหนาตา
อย่างไรก็ดี ภาครัฐยังคงห้ามการจับกลุ่มขนาดใหญ่

ร้านอาหารยังคงจะต้องจำหน่ายแบบกลับบ้าน ร้านชายังคงจะต้องปิดต่อไป
รวมทั้งประชาชนจำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่อออกจากบ้าน

ไม่เช่นนั้นอาจถูกจับกุมแล้วก็ชำระค่าปรับ ซึ่งจะเสียประวัติ และการดูแลรักษาระยะห่างระหว่างกัน 1 ถึง 2 เมตร ยังคงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติาม.

ถึงแม้เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเขตแดนติดกับจีน และเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มแรก
ที่มีการยืนยันผู้ป่วยจากโรคโควิด-19

แต่จำนวนผู้เจ็บป่วยจนถึงปัจจุบันอยู่ที่อย่างต่ำ 268 คน และรักษาหายแล้ว 223 คน
โดยยังไม่มีผู้เสียชีวิต ด้านนพ.ทาเคชิ ค้างไซ

ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ประจำภูมิภาคแปซิฟิคตอนใต้
พูดว่าการร่วมมือของชาวเวียดนามเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของมาตรการควบคุมโรค

เบื้องต้นเขาได้รับแถลงการณ์ว่า รัฐบาลเวียดนามกักบริเวณประชาชนซึ่งเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อประมาณ 80,000 คน…

ยอดคนเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน สหรัฐอเมริกา พุ่งเกือบจะ 3,000 ราย ใน 24 ชั่วโมง

ในขณะที่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเตือนการแพร่ระบาดระลอก 2 ใน สหรัฐอเมริกา
บางทีอาจเลวร้ายกว่านี้

22 เมษายน เว็บ Worldometers สหรัฐอเมริกา ได้แถลงการณ์ว่า โรคติดเชื้อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ทั่วทั้งโลกมีจำนวน 2,557,181 ราย ขณะที่จำนวน ยอดคนเสียชีวิตเชื้อไวรัส จากการรับเชื้อทั่วทั้งโลกมี 177,641 ราย

โดย สหรัฐฯ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงที่สุดถึง 819,164 ราย และก็มีคนเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมง มากขึ้นถึง 2,826 ราย เยอะที่สุดนับจากมีการระบาดในสหรัฐอเมริกา ทำให้ขณะนี้สหรัฐอเมริกา มีคนเสียชีวิตแล้ว 45,340 ราย

ข้อมูลเมื่อเวลา 09.31 น. ตามเวลาของประเทศไทย

ทั้งนี้ โรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) ออกมาเตือนถึงความน่าจะเป็นไปได้สำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาระลอกที่สองในสหรัฐอเมริกา

โดยเฉพาะในฤดูหนาวของปีนี้ ซึ่งจะมาพร้อมๆกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ ดังนั้นจะต้องมีการเตรียมการระบบสาธารณสุขเพื่อรองรับการระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง…

ทำเอาใจหายใจคว่ำกันเลยทีเดียว กับ หนูน้อยวัย 6 ขวบ เล่นซุกซนปีนออกมานอกหน้าต่างจนติดคาอยู่บริเวณชั้น 5 จนมี หนุ่มจีน คนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ ต้องสวมวิญญาณสไปเดอร์แมน ปีนตึกมือเปล่า เพื่อเข้าไปช่วยหนูน้อยคนนี้จนรอด ปลอดภัย พ้นจากอันตราย

เพราะเมื่อไม่นานมานี้ ที่เมืองหวยฮว่า ในมณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน เด็กเล็กวัย 6 ขวบปีนออกมานอกหน้าต่างบ้าน และติดอยู่ด้านนอกบริเวณชั้น 5 ของอาคารอย่างน่าหวาดเสียว

หลิวต้ากั๋ว หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์จึงตัดสินใจปีนตึกจากชั้น 3 ขึ้นไปถึงตัวเด็กที่ชั้น 5 ด้วยมือเปล่าภายในเวลาไม่ถึง 30 วินาที และช่วยเหลือเด็กน้อยได้สำเร็จ

หลิว กล่าวว่า “ผมคิดว่าถ้าใครเห็นก็คงยื่นมือเข้าช่วยเหมือนกัน เพราะนั่นคือชีวิตคน” หลังจากช่วยชีวิตเด็กน้อย เพื่อนบ้านในชุมชนต่างก็รู้จักหลิวในฐานะ “สไปเดอร์แมน”

เจ้าหน้าที่ชุมชนและคุณปู่ของเด็กหญิงได้ไปเยือนบ้านของหลิวเพื่อแสดงความขอบคุณ ด้านคุณปู่กล่าวว่า “ทุกคนในครอบครัวของเรารู้สึกขอบคุณเขาเป็นอย่างมาก และจะระลึกถึงความกล้าหาญของเขาตลอดไป”

 …

นักธุรกิจรัสเซีย เบื่ออยู่บ้านช่วงล็อกดาวน์หันมาทำงานส่งอาหาร
แม้ว่าจะรายได้น้อยลงแต่ว่าก็ได้ขยับเขยื้อนร่างกาย

สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงมอสโกประเทศรัสเซียเมื่อวันที่ 19 เม.ย.
ว่า นายเซอร์ไก โนชอฟนียย์ วัย 38 ปี นักธุรกิจรัสเซีย ในกรุงมอสโก

แต่ไม่ได้พบเจอปัญหาล้มเหลวทางธุรกิจ เพียงแค่รู้สึกเบื่อที่จะต้องอยู่แต่ในบ้าน
เล่นอินเตอร์เน็ต เพราะเหตุว่าคำสั่งล็อกดาวน์ห้ามประชาชนออกนอกบ้าน

เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยเหตุนี้
เขาก็เลยเข้าไปสมัครทำงานแม้ว่าจะมีรายได้น้อย

กับบริษัทให้บริการจัดส่งอาหารเดลิเวอรี่แห่งหนึ่ง เพราะต้องการมีชีวิตอีกแบบหนึ่ง
ได้ออกมานอกบ้าน เคลื่อนไหวร่างกาย ในขณะที่คนอื่นๆต้องอยู่แต่ในบ้าน

ทางการรัสเซียสั่งให้ชาวมอสโกที่ไม่ได้ประกอบอาชีพที่สำคัญจะต้องอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น
แต่อนุญาตให้ออกไปร้านค้าใกล้เคียงรวมทั้งร้านขายยาได้เท่านั้น

การล็อกดาวน์มีผลทำให้มีความต้องการมากเพิ่มขึ้นในธุรกิจจัดส่งอาหาร

ซึ่งตัวของนายโนชอฟนียย์เปิดเผยว่า เขาต้องเดินโดยเฉลี่ยวันละ 20 กม.
เพื่อไปจัดส่งอาหาร มีรายได้วันละ 1,000-1,500รูเบิ้ล
(13-20 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 416-640บาท)

เขาบอกว่า งานนี้ทำให้เขาได้เคลื่อนไหวร่างกาย เขาบอกว่า แปลกมากที่คนไม่รู้ว่า
เขาเป็นคนจัดส่งอาหารแม้จะสวมเครื่องแบบสีเหลืองก็ตาม

นายโนชอฟนียย์ เป็นนักธุรกิจที่เพิ่งเดินทางกลับมาอยู่รัสเซียเมื่อปีที่แล้ว
หลังไปทำธุรกิจอยู่ในเมืองจีนนาน 12 ปี
ปัจจุบันทำธุรกิจบริษัทที่ปรึกษามีรายได้ปีละ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 64 ล้านบาท)…

สำนักข่าวต่างชาติรายงานจาก เมืองไบโคนูร์ ประเทศคาซัคสถาน ช่วงวันที่ 18 เมษายนว่ายานแคปซูลโซยุซ “เอ็มเอส-15″ ขององค์การอวกาศรัสเซีย  รอสคอสมอส

นำลูกเรือ 3 คนเดินทางจากสถานีอวกาศนานาชาติ ไอเอสเอส  กลับถึงโลกโดยสวัสดิภาพ
โดยลงจอดกึ่งกลางทุ่งหญ้าในเมืองเชซคาซกัน ทางตอนกลางของ ประเทศคาซัคสถาน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นักบินอวกาศซึ่งเดินทางกลับมาแบ่งเป็นชาวรัสเซีย 1 คน คือนายโอเล็ก สครีพอชกา

แล้วก็ลูกเรือ 2 คนขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ( นาซา )
คือนายแอนดรูว์ มอร์แกน และก็นางสาวเจสสิกา เมียร์

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าการลงจอดของยานแคปซูลโซยุซครั้งนี้ไม่มีการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางของทั้งองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ(สหรัฐอเมริกา)และรอสคอสมอส

โดยหน่วยงานทั้งสองแห่งให้เหตุุผลตรงกันว่า เป็นข้อจำกัดทางเทคนิคที่เชื่อมโยงกับวิกฤติโรคระบาดบนโลก แม้ต่อมามีการเผยแพร่คลิปบางช่วงบางตอน แต่เป็นบรรยากาศซึ่งต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา

เพราะทีมงานภาคสนามทุกคนสวมถุงมือยางและหน้ากากอนามัย พร้อมทั้งมีการเตือนกันเป็นระยะว่าทุกคนไม่ควรยืนใกล้กันมากจนเกินไป

ด้านเมียร์กล่าวในเวลาต่อมา ว่าเธอและเพื่อนอีกสองคนซึ่งใช้เวลาอยู่ในอวกาศตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว เดินทางกลับมายังโลก “ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปมาก”

หมายถึงวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  และการใช้ชีวิตบนโลกนับจากนี้อาจ “มีความโดดเดี่ยว” มากกว่าอยู่บนไอเอสเอส แต่เธอเชื่อมั่นว่าโลกยังเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับมนุษย์

ขณะที่นาซาเผยแพร่แถลงการณ์ในเวลาต่อมา ยืนยันกำหนดการส่งลูกเรือชาวอเมริกัน 2 คนเดินทางด้วยยานแคปซูล “ดรากอน” ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ ไปยังไอเอสเอสในวันที่ 27 พฤศภาคมนี้

ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีที่นาซากลับมาส่งลูกเรือด้วยตัวเองในภารกิจไอเอสเอส นับตั้งแต่ภารกิจยานแอตแลนติส ซึ่งเป็นโครงการกระสวยอวกาศเที่ยวล่าสุดของนาซา

และยุติไปเมื่อปี 2554 ส่วนบริษัทโบอิ้วจะรับผิดชอบการเดินทางของนักบินอวกาศกลุ่มที่ 2 ด้วยยานแคปซูล
“สตาร์ไลเนอร์ “…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจาก กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 14 เมษายน
โดยอ้างจากรายงานของสำนักข่าวซินหัว ว่า รัฐบาลจีน กรุงปักกิ่ง อนุมัติการทดสอบลำดับแรกในมนุษย์

เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพของวัคซีน 2 แบบ ซึ่งคิดค้นโดยบริษัทในประเทศ เพื่อป้องกันโรคโควิด-19

ทั้งนี้ วัคซีนทั้งสองชนิดพัฒนาโดยซิโนแวค ไบโอเทค บริษัทวิจัยด้านชีวเภสัชภัณฑ์ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่กรุงปักกิ่ง และสถาบันผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่เมืองอู่ฮั่น

ในเครือกลุ่มบริษัทเภสัชภัณฑ์แห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ

การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเมื่อเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งอนุมัติการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ ให้กับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งพัฒนาโดยสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารแห่งชาติ

ร่วมกับบริษัทแคนซิโนไบโอของประเทศฮ่องกง ขณะที่ในเวลาเดียวกันสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐ ( เอ็นไอเอช ) กำลังพัฒนาและทดสอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เช่นกัน.…